ในปี 2565 ที่ผ่านมา ภาวะเศรษฐกิจประเทศไทยยังคงซบเซาอันเป็นผลพวงจากการ แพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องของโรคไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน จึงทำให้เกิดภาวะน้ำมันขาดแคลนทั่วโลก เมื่อน้ำมันปรับขึ้นราคาอย่างไม่หยุดหย่อน ส่งผลให้ สินค้าปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง และตามมาด้วยเงินเฟ้อ เหตุปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อการ จับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ รายได้ที่เกิดจากนักท่องเที่ยวที่เป็น กำลังซื้อหลักก็มีจำนวนต่ำกว่า 10 ล้านคน จากเดิมก่อนหน้านั้นมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้า มาในประเทศไทยมากถึงเกือบ 40 ล้านคนในปี 2562 จึงเป็นเหตุให้อุตสาหกรรมลูกโซ่ที่เชื่อม กับธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้ง ๆ ที่ รายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จากเดิมเคยสร้าง GDP ถึงร้อยละ 22 ประเทศไทยจึงอยู่ในสภาวะที่ต้องเผชิญกับเงินเฟ้อ และ เงินฝืดในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ การระบาดของโรคอหิวาต์ในสุกร (ASF) ยังทวีความรุนแรง และไม่อยู่ในวิสัยที่กรมปศุสัตว์จะยับยั้งได้ ทำให้ปริมาณสุกรสูญเสียจากโรคไปมากกว่าร้อยละ 40 จึงได้มีผลกระทบต่อต้นทุนอาหารที่แปรรูปจากเนื้อสุกรอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ดี ในวิกฤตก็ย่อมมีโอกาสเสมอ บริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้สูงสุดเป็น ประวัติการณ์ ส่วนหนึ่งเกิดจากผู้บริโภคเริ่มตื่นตัวในคุณภาพอาหาร และเริ่มเจาะจงแบรนด์ มากขึ้น อย่างไรก็ตาม จากภาวะที่สุกรเนื้อแดงขาดแคลน และมีราคาสูงขึ้นกว่าร้อยละ 40 จากราคาปกติ ทางบริษัทฯ ไม่สามารถที่จะปรับราคาสินค้าตามสัดส่วนของต้นทุนวัตถุดิบ ที่สูงขึ้นอย่างชนิดที่ไม่อยู่ในวิสัยที่ควบคุมได้ แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยทีมงานที่แข็งแกร่ง และ มากด้วยประสบการณ์ บริษัทฯ สามารถฟันฝ่าอุปสรรคนานัปการจนทำผลกำไรที่อยู่ในอัตรา ที่ยอมรับได้เมื่อเทียบกับธุรกิจในอุตสาหกรรมเดียวกัน ผมจึงขอขอบคุณทุกท่าน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมา ณ ที่นี้
สุดท้ายนี้ ในนามของคณะกรรมการบริหาร ผมขอขอบคุณผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับที่ได้ร่วมแรงร่วมใจจนสามารถนำพาบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในปี 2565 ที่ผ่านมาด้วยดี
